น้ำผึ้งเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยเรามานานแสนนาน ทั้งใช้ชงดื่ม ประกอบอาหาร ทำเป็นยาหรือใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางต่างๆ โดยน้ำผึ้งได้มาจากผึ้งที่ผลิตน้ำหวานแล้วเก็บไว้เป็นแหลางอาหารภายในรัง ซึ่งน้ำผึ้งนั้นถึงแม้ว่าจะมีรสชาติหวาน อร่อยแต่กลับมีประโยชน์ต่อร่างกายคนเรามากมายหลายอย่างหากเรารับประทานแต่พอดี แถมยังมีข้อมูลที่แชร์กันมากมายตามอินเทอร์เน็ตว่าน้ำผึ้งสามารถลดความอ้วนได้ ซึ่งจะจริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ เรามาหาคำตอบของเรื่องนี้ไปด้วยกันค่ะ
ประโยชน์ จากน้ำผึ้ง
เราคงจะเคยได้ยินสรรพคุณในหลายๆทางของน้ำผึ้งกันมาบ้างแล้ว เพราะคนเฒ่าคนแก่มักจะใช้น้ำผึ้งในหลายๆอย่าง ทั้งทำอาหาร ใช้เป็นยา ใช้ในการดูแลผิวพรรณและบำรุงร่างกาย ซึ่งในน้ำผึ้งสีเหลืองหวานๆและมีกลิ่นหอมๆนั้น ประกอบไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสกับน้ำตาลกลูโคส และยังมีวิตามินแร่ธาตุอีกมากมาย ซึ่งประโยชน์ของน้ำผึ้งได้แก่
- ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส นุ่มนวล
- เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
- ช่วยให้สมองสดชื่น บำรุงสมอง มีส่วนช่วยในเรื่องของความจำ
- ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังและปกป้องผิวจากรังสี UV
- บำรุงเส้นผม
- ช่วยให้ชุ่มคอ เสียงใส ลดการเจ็บคอและการอักเสบในลำคอ
- ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
- บำรุงเลือดในร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
- ช่วยบรรเทาอาการหวัด อาหารไอและเจ็บคอ หากเด็กๆเป็นหวัดใช้น้ำผึ้งจะปลอดภัยกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะต่างๆ
- ปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยรักษาอาการเมาค้าง
- ช่วยให้ร่างกายและสมองผ่อนคลาย ลดความหงุดหงิดและคลายความวิตกกังวลได้
- ช่วยให้หลับสบาย หลับลึกเหมาะสำหรับคนที่นอนไม่หลับ
- ช่วยลดความเสี่ยงและรักษาโรคร้ายแรงหลายๆอย่าง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคตับ โรคกระเพาะอาหาร โรคริดสีดวงทวาร โรคไขข้ออักเสบ
- ลดการอักเสบและติดเชื้อของบาดแผล
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและต้านเชื้อรา
น้ำผึ้ง กี่แคล
จากประโยชน์ที่มากมายของน้ำผึ้งคงมีใครหลายๆคนเตรียมตัวไปเสาะหาน้ำผึ้งมาไว้ติดบ้านบ้างซะแล้ว รีบเลยค่ะเพราะน้ำผึ้งนั้นมีประโยชน์รอบด้านจริงๆ แต่เวลาทานก็ควรทานแค่พอเหมาะ เพราะถึงน้ำผึ้งจะมีประโยชน์แต่ก็เต็มไปด้วยน้ำตาลและให้พลังงานสูง โดยน้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 294 กิโลแคลอรี่ค่ะ
วิธีรับประทานน้ำผึ้ง ให้มีผล การลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ก็คือการควบคุมอาหารให้ร่างกายได้รับพลังงานเข้าไปน้อยกว่าที่ร่างกายเราใช้ และออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อร่างกายจะได้แข็งแรงและสดชื่น การจะลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนด้วยการใช้สูตรใดๆก็ตามก็ควรระมัดระวัง เพราะหากเราทำไม่พอดี มากไปหรือน้อยไปก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้ทั้งนั้น ซึ่งจากข้อมูลต่างๆในโลกอินเทอร์เน็ตที่มีคนแชร์กันมากมายว่ากินน้ำผึ้งสามารถลดน้ำหนักได้นั้นก็ยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัด แต่หากตามจำนวนแคลอรี่ของน้ำผึ้ง หากเรากินเป็นประจำในจำนวนมากๆก็อาจจะทำให้อ้วนแทนที่จะลดได้ ถึงแม้ว่าเราจะได้ประโยชน์หลายอย่างก็ตาม ดังนั้นการจะลดน้ำหนักที่สมบูรณ์เราจึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคุมปริมาณอาหาร และเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ส่วนสำหรับน้ำผึ้งเองก็ไม่ควรทานเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้แคลอรี่เกินและอ้วนลงพุงได้
ข้อควรระวังในการกินน้ำผึ้ง
เนื่องจากน้ำผึ้งประกอบไปด้วยน้ำตาลและให้พลังงานค่อนข้างสูงการรับประทานน้ำผึ้งจึงควรให้ความระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกายของเราได้แก่
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ห้ามให้รับประทานน้ำผึ้งโดนเด็ดขาด เนื่องจาก เด็กวัยนี้ร่างกายจะยังไม่สามารถย่อยน้ำผึ้งได้ดี และอาจทำให้เด็กเกิดอาการท้องเสียได้
- ผู้ที่แพ้เกสรน้ำผึ้งหรือแพ้น้ำผึ้งไม่ควรรับประทาน
- ผู้ที่มีดีไม่สมบูรณ์ หรือมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองไม่ควรรับประทานน้ำผึ้ง
- ผู้ที่มีตุ่มมีหนอง น้ำเหลืองเสีย มีฝีพุพองไม่ควรรับประทานน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งมากคุณค่าหากรับประทานแค่พอเหมาะ
น้ำผึ้งถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายต่อหลายอย่างมากๆ แต่น้ำผึ้งก็เต็มไปด้วยน้ำตาลที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะทำให้ร่างกายได้รับแคลอรี่เกินและทำให้เกิดการอ้วนลงพุงได้ โดยน้ำผึ้งแนะนำว่าเพื่อประโยชน์สูงสุด ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 6 ช้อนชา หากวันไหนรับประทานอาหารที่มีแป้งหรือน้ำตาลเยอะก็ควรลดปริมาณน้ำผึ้งให้น้อยลง ส่วนที่แชร์กันเรื่องน้ำผึ้งลดความอ้วนเองก็ยังไม่มีการวิจัยรองรับอย่างเป็นทางการ แต่หากเราควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ การใช้น้ำผึ้งใส่ในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มพลัง เติมความสดชื่นสักวันละ 2 ช้อนชาก็คงมีผลดีต่อร่างกายมากกว่าโทษค่ะ
1
2