มัลเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

มัลเบอร์รี (Mulberry)หรือบ้านเราจะเรียกกันว่าลูกหม่อน เป็นผลไม้สีสวยรสชาติดี ตอนที่ยังดิบๆจะมีผลสีเขียวมีรสชาติเปรี้ยวถึงเปรี้ยวมาก เมื่อเริ่มสุกจะมีสีส้มถึงแดงๆรสชาติจะหวานอมเปรี้ยว แต่พอสุกเต็มที่จะมีสีแดงเข้มจนออกดำรสชาติจะออกหวาน มัลเบอร์รีนิยมนำมาทานสดๆ จิ้มเกลือหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ประโยชน์ จาก มัลเบอร์รี

มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ลูกเล็กๆรสชาติอร่อยเด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีซึ่งนอกจากจะสีสวยแล้ว มัลเบอร์รี ยังมีประโยชน์ที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย มากเสียจนเราคิดไม่ถึงว่า ผลไม้ลูกเล็กๆแค่นี้จะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ได้ โดยประโยชน์ของมัลเบอร์รีหลักๆ ได้แก่

  1. ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันการเกิดลิ่มในหลอดเลือด และลดคอเลสเตอรอล
  2. ต่อต้านการขาดเลือดในสมอง บำรุงสมอง และป้องกันโรคมะเร็งต่างๆ เช่นมะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้
  3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  4. ช่วยลดอาการแพ้ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเยอะ ช่วยต้านการอักเสบ บำรุงร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียได้
  5. ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจก
  6. บำรุงผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเปล่งปลั่ง
  7. ช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง
  8. ลดการปวดประจำเดือน ลดการเกิดสิว
  9. ช่วยลดความเครียดหรืออาการเมาค้างได้
  10. ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ลดท้องอืด จุกเสียดและแน่นท้อง

มัลเบอร์รี กี่แคล

มัลเบอร์รี เป็นผลไม้ตะกูลเบอร์รี่ที่มากคุณค่า ให้พลังงานต่ำ โดย มัลเบอร์รี 100 กรัม จะให้พลังงานเพียงแค่ 43 กิโลแคลลอรี่ เท่านั้น

วิธีรับประทาน มัลเบอร์รี ให้มีผล การลดน้ำหนัก

มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง มีสารอาหารที่จำเป็นมากมายแถมยังให้พลังงานต่ำ จึงไม่แปลกที่สาวๆหลายๆคนนิยมนำมารับประทานเพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะช่วยในเรื่องการขับถ่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอล แถมยังควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ช่วยเบิร์นไขมันหน้าท้องและส่วนอื่นๆได้อย่างดีอีกด้วย
การรับประทาน มัลเบอร์รี สามารถรับประทานได้ในหลายๆแบบ ไม่ว่าจะเป็นก่อนอาหารหรือหลังอาหารก็ได้ เพราะหากเราควบคุมปริมาณอาหารในช่วงลดน้ำหนักแรกๆ อาจจะรู้สึกหิวบ่อยหรือไม่อยู่ท้อง ก็ให้รับประทานมัลเบอร์รี เข้าช่วย จะช่วยให้อิ่มนาน และเผาผลาญไขมันได้ดี นอกจากนี้ใครที่เบื่อทานสดๆ ยังสามารถนำไปแปรรูปหรือใช้เป็นส่วนผสมขนมหรืออาหารอื่นๆได้อีกด้วย ใครที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ยังดุสวยสุขภาพดี รีบไปหามัลเบอร์รีมารับประทานด่วนๆเลยค่ะ

ข้อควรระวังในการกิน มัลเบอร์รี

มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง การรับประทานคราวเดียวในปริมาณมากๆอาจจะทำให้ท้องเสียหรือท้องร่วงได้ ที่สำคัญหากคุณจะเลือกทานมัลเบอร์รีก่อนอาหาร ควรพิจารณาด้วยว่าตัวเองมีปัญหาโรคกระเพาะหรือไม่ เพราะหากเป็นโรคกระเพาะ แนะนำทางหลังอาหาร ไม่เช่นนั้น อาจกัดกระเพาะทำให้ปวดท้องได้

มัลเบอร์รี ผลไม้จิ๋วแต่แจ๋ว ที่คนลดน้ำหนักแต่อยากสวยและสุขภาพดีไม่ควรพลาด

มัลเบอร์รีในบ้านเราหาง่ายแถมราคาก็ไม่แพง ตามตลาดสดทั่วไปจะขายจานละ10 บาทต่อ 100 กรัม ถือว่าเป็นผลไม้ที่ถูกมากๆ การปลูกก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมงอะไรเลย จึงถือว่า มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ชั้นยอดอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสมกับคนที่ต้องการคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนักค่ะ

1

2

Related posts

  1. ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  2. แตงกวา กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    แตงกวา กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  3. ชินนาม่อน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ชินนาม่อน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  4. กล้วยน้ำว้า กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  5. แอปเปิ้ล กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    แอปเปิ้ล กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  6. ขนมจีน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ขนมจีน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  7. น้ำผึ้ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    น้ำผึ้ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  8. ข้าวบาสมาติ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  9. อกไก่ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    อกไก่ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด