น้ำเชื่อมเมเปิ้ล หรือเมเปิ้ลไซรัป เป็นสารให้ความหวานที่นิยมนำมาใช้แทนน้ำตาล เนื่องจากอร่อยและดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาล โดยเฉพาะกับคนที่ติดรสหวานแต่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง โดย น้ำเชื่อมเมเปิ้ล หรือเมเปิ้ลไซรัปเป็นสารที่ให้ความหวานธรรมชาติที่ได้มาจากการแปรรูปน้ำเลี้ยงของต้นเมเปิ้ล ซึ่งนิยมใช้กันมากในทวีปอเมริกาเหนือ แต่สำหรับไทยเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับเมเปิ้ลไซรัปมากเท่าไร และด้วยความที่ว่า มีข่าวลืมมากมายเกี่ยวกับการทานน้ำเชื่อมเมเปิ้ลในการลดน้ำหนัก จึงทำให้เกิดความสงสัยกันว่า น้ำเชื่อมเมเปิ้ลสามารถกินเพื่อลดน้ำหนักได้ไหม เดี๋ยววันนี้เราจะมาบอกถึงประโยชน์และวิธีการทานน้ำเชื่อมเมเปิ้ลหรือเมเปิ้ลไซรัปที่ถูกต้องกันค่ะ
ประโยชน์ จาก น้ำเชื่อมเมเปิ้ลหรือเมเปิ้ลไซรัป
อย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่า การรับประทานน้ำตาล ในปริมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้ แต่หลายคนก็ติดความหวาน แถมร่างกายของเราก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำตาลในการทำงานของระบบบางอย่างในร่างกาย หลายคนจึงเปลี่ยนมาใช้สารให้ความหวานทดแทนการบริโภคน้ำตาล และน้ำเชื่อมเมเปิ้ลเองก็ถูกเลือกให้เป็นอาหารทดแทนนั้น ด้วยความที่น้ำเชื่อมเมเปิ้ลเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ สิ่งแรกที่เราจะได้รับหลังจากรับประทานเข้าไปนั่นก็คือความอร่อยลิ้น หวานละมุน แต่เป็นความหวานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงแต่ให้พลังงานต่ำเมื่อเทียบกับน้ำตาล ซึ่งนอกจากความอร่อยลิ้นแล้ว น้ำเชื่อมเมเปิ้ลยังมีประโยชน์อื่นๆที่น่าสนใจอีก ได้แก่
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอวัย ชะลอความแก่ชรา แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็งและหลอดเลือด รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับสมองต่างๆ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย
- ช่วยเพิ่มพลังทางเพศของผู้ชาย
- ช่วยต้านการอักเสบและช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนของโลหิต
- ช่วยย่อยอาหาร ลดการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืดและท้องผูกได้
- ช่วยเสริมภูมิคุ้นกันของร่างกาย
- ช่วยลดรอยแดงหรือลดการอักเสบของผิวหนังเมื่อทาน้ำเชื่อมเมเปิ้ลลงบนผิวโดยตรง หรือใช้ผสมกับส่วนผสมอื่น เช่น นม โยเกิร์ต หรือข้าวโอ๊ตเพื่อใช้บำรุงผิวได้
น้ำเชื่อมเมเปิ้ล กี่แคล
น้ำเชื่อมเมเปิ้ลถึงแม้ว่าจะเป็นสารให้ความหวานธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานต่ำกว่าน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ แต่ก็ยังถือว่าเป็นสารให้ความหวานที่มีน้ำตาลสูงอยู่ดี หากทานมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของเราได้ โดย น้ำเชื่อมเมเปิ้ล 100 กรัม จะให้พลังงานที่ 257 กิโลแคลอรี่
วิธีรับประทานน้ำเชื่อมเมเปิ้ล ให้มีผลใน การลดน้ำหนัก
น้ำเชื่อมเมเปิ้ลถึงจะมีแร่ธาตุหรือสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆที่มากกว่าน้ำตาลทรายขาว แต่ก็ยังมีน้ำตาลในปริมาณที่สูงอยู่ดี การที่จะทานเพื่อการลดน้ำหนักโดยตรงนั้นอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก แต่ในกรณีที่ต้องการลดน้ำหนักในช่วงเริ่มต้น แล้วยังตัดความหวานออกไปไม้ได้ แทนที่จะเลือกบริโภคน้ำตาลโดยตรงก็เปลี่ยนมาเป็นน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแทนสัก 1 ช้อนชาต่อมื้อต่อวันก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและไม่ส่งผลเสียต่อการลดน้ำหนักด้วยค่ะ ดังนั้นการรับประทานน้ำเชื่อมเมเปิ้ลจึงไม่ควรเกิน 3 ช้อนชาต่อวัน หากจะแบ่งทานเป็นมื้อควรทานมื้อละ 1 ช้อนชา เพราะน้ำเชื่อมเมเปิ้ล 1 ช้อนชา จะให้พลังงานประมาณ 52 กิโลแคลอรี่
ข้อควรระวังในการกิน น้ำเชื่อมเมเปิ้ล
ถึงน้ำเชื่อมเมเปิ้ลจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าน้ำตาล แต่ด้วยความที่มีปริมาณของน้ำตาลสูง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ และควรเลือกบริโภคน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแท้มากกว่าของเทียมหรือของผสม เพราะอาจจะทำให้ได้รับน้ำตาลมากกว่าปกติแต่ได้สารอาหารน้อยลง
น้ำเชื่อมเมเปิ้ลถึงจะเป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพแต่ก็มีน้ำตาลสูงการรับประทานจึงควรระมัดระวัง
เพราะถึงแม้ว่าน้ำเชื่อมเมเปิ้ลจะมีสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็มีน้ำตาลสูงมากเช่นกัน อีกทั้งแคลอรี่ที่ได้จากน้ำเชื่อมเมเปิ้ลก็ยังมากกว่าผักผลไม้หรือเนื้อสัตว์ไม่ผ่านการแปรรูปที่ให้สารอาหารเทียบเท่ากัน หากคุณจะเปลี่ยนจากการรับประทานน้ำตาลทรายขาวมาเป็นน้ำเชื่อมเมเปิ้ลก็ถือว่าดีต่อร่างกาย แต่การเพิ่มน้ำเชื่อมเมเปิ้ลลงในมื้ออาหารอาจจะทำให้สิ่งต่างๆแย่ลงเพราะจะทำให้คุณได้รับพลังงานและน้ำตาลที่มากเกินไปและก่อเกิดเป็นไขมันอุดตันต่อร่างกายได้ หากต้องการรับประทานให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงควรรับประทานแค่พอเหมาะเท่านั้น
1
2