ผักอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยคุ้นเคยกันดีนั่นก็คือ “แตงกว่า (Cucumber)” นั่นเอง เพราะแตงกวาถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริกต่าง ๆ หรือเต้าเจี้ยวหลนก็อร่อยไม่เบา หรือไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคียงให้กับอาหารจานเดียวอย่างข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ หรือจะใส่ในสลัดอย่างสลัดแขกก็เป็นการเพิ่มความกรุบกรอบและความอร่อยให้กับอาหารได้อย่างดีทีเดียว ว่าแต่ที่เราเห็นกันอยู่มากมายในหลาย ๆ เมนู เจ้าแตงกวานี้จะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนนะ
แตงกวา กี่แคล
พลังงานที่ได้รับต่อแตงกวาพร้อมเปลือกคิดที่ 100 กรัม มี 14 กิโลแคลอรีค่ะ
ประโยชน์ของแตงกวา
- ช่วยลดอุณหภูมิ ลดระดับความร้อนในร่างกาย
- เพิ่มความสดชื่น ป้องกันภาวะขาดน้ำ เนื่องจากในแตงกว่ามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 90%
- ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย อาทิ การรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น
- ในกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยควบคุมความดันโลหิต เนื่องจากเปลือกของแตงกวาจะมีสารอาหารจำเป็นอย่างโพแทสเซียมและแมงกานีส ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำหน้าที่ปรับความสมดุลให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้อย่างปกติ
- ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก
- ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส เนื่องจากแตงกว่ามีสารช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น
- ช่วยลดกรดเกินในกระเพาะ
- ช่วยขจัดของเสียที่อยู่ในร่างกาย และยังช่วยละลายก้อนแข็งที่อยู่ในไตได้อีกด้วย
- เสริมสรางความจำ กระตุ้นการทำงานของสมอง และช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เนื่องจากที่เปลือกแตงกวามีสารอาหารอยู่หลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ซิลิกา เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูดอ่อนได้ดี
- บรรเทาอาการเจ็บคอด้วยการนำน้ำแตงกวามากลั้วคอ อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
- สารสกัดจากเมล็ดแตงกวาช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ มีงานวิจัยรองรับ
วิธีกินแตงกวาให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- แตงกวานับเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่หลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้น สารอาหารก็จะแตกต่างกันไป แต่ว่าขณะนี้ก็ยังไม่มีงานวิจัยไหนรองรับหรือมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือปริมาณที่แนะนำต่อวัน ดังนั้น การกินแตงกวาไม่ควรกินมากเกินไป เพื่อจุดประสงค์ทางการรักษาโรคหรืออาการป่วยใด ๆ จนกว่าจะมีข้อมูลทางวิชาการออกมารองรับนะคะ
- ก่อนการกินแตงกวาควรล้างทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง หรืออาจจะปอกเปลือกออกก่อน เพื่อลดสารพิษหรือขจัดสารพิษที่ตกค้าง อันก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
- หากกินแตงกวาฝานในปริมาณครึ่งถ้วย ก็จะได้รับพลังงาน 8 แคลอรี ก็เท่ากับว่าร่างกายจะได้รับวิตามินเค เกินกว่า 10% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ถึงแม้ว่าสารประกอบของแตงกวาส่วนใหญ่จะสามารถนำไปใช้ในเรื่องของความสวยความงามได้ ซึ่งผ่านการวิจัยและทดสอบแล้วว่าไม่มีอันตราย แต่ผู้บริโภคควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้นะคะ เพื่อความมั่นใจในการใช้ค่ะ
ข้อควรระวังจากการกินแตงกวา
คงปฏิเสธกันไม่ได้ว่าแตงกวาเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากชนิดหนึ่ง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เพราะมีปริมาณน้ำมากถึง 96% นอกจากนี้ยังช่วยดับกระหายได้ดี และสามารถช่วยขจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกายได้ แตงกวามีสารอาหารสำคัญหลาย ๆ อย่างซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “กรดยูริค”
กรดยูริคนี้จะอยู่ที่เมือกใส ๆ ตรงแกนกลาง หากกินแตงกวาทุกวันและเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามาถขับสารยูริคออกมาได้หมด และนี่อาจเป็นเหตุให้ผู้บริโภคเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ได้ค่ะ
แตงกวามีสารอาหารสำคัญหลายอย่าง สามารถใช้ไปในเรื่องของความสวยความงาม และการกินเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง แต่ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในรูปแบบใดก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้นะคะ และที่สำคัญ ควรบริโภคแต่พอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป เท่านี้ก็จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีจนเป็นที่น่าอิจฉาของใคร ๆ ได้แล้วล่ะค่ะ
1
2
