ถั่วเหลือง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

ถั่วเหลือง เป็นพืชที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาช้านาน เราใช้ถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบทำอาหาร ขนม ของว่าง และอะไรต่อมิอะไรมากมาย เช่น เต้าหู้,น้ำเต้าหู้,นมถั่วเหลือง,ซอสถั่วเหลือง ,เต้าเจี้ยว,แป้ง ฯลฯ ทำให้คนไทยเรารู้จักและคุ้นเคยกับถั่วเหลืองเป็นอย่างดี ยิ่งกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่ก็จะใช้ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเข้าช่วย เพราะถั่วเหลืองให้โปรตีนสูงช่วยให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน เดี๋ยววันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประโยชน์และเทคนิคการกินถั่วเหลืองเพื่อลดน้ำหนักมาฝากกันค่ะ

ประโยชน์ จาก ถั่วเหลือง

ถั่วเหลืองได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งถั่ว” เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราหลายอย่างมากๆ ได้แก่

  1. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล
  2. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง
  3. ช่วยบำรุงสมอง บำรุงการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทำให้สมองสดชื่น และมีความจำที่ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
  4. ช่วยทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก
  5. ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายแข็งแรง
  6. ช่วยลดการเกิดสิว และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น
  7. ช่วยเสริมสร้างผมใหม่ บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง สวยเงางาม
  8. ช่วยในระบบขับถ่าย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
  9. ช่วยให้นอนหลับได้ง่าย หลับสบาย และหลับสนิทมากยิ่งขึ้น
  10. ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ช่วยทำให้หลอดเลือดยืดหยุ่น เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  11. ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
  12. ลดอาการหงุดหงิด หรืออาการวัยทองของผู้หญิงที่หมดประจำเดือนได้

ถั่วเหลือง กี่แคล

เห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้หลายคนคงต้องหันมาทานถั่วเหลืองให้บ่อยขึ้นกันแล้วล่ะค่ะ เพราะนอกจากจะหาง่าย และราคาถูกแล้วยังส่งผลดีต่อร่างกายเราเยอะมาก โดย ถั่วเหลือง 100 กรัมจะให้พลังงานที่ 417 กิโลแคลอรี่ ถึงมันจะเยอะแต่อิ่มอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ

วิธีรับประทานถั่วเหลือง ให้มีผล ในการลดน้ำหนัก

ถั่วเหลืองเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมันสูง หลายคนที่ต้องการลดน้ำหนัก หากอ่านมาถึงตรงนี้คงกลัวการกินถั่วเหลืองใช่ไหมคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะหากเราทานถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม เราก็จะได้รับประโยชน์จากถั่วเหลืองอย่างเต็มที่แน่นอน อีกอย่าง คนที่จะลดน้ำหนัก การกินไขมัน หรือแป้งก็ไม่ได้น่ากลัวนะคะ ถ้าเรากินแบบพอดี ไม่ใช่ตะบี้ตะบันกิน เพราะหากเป็นอย่างหลัง ไม่ว่าจะเป็นของที่ดีเลิศแค่ไหน ก็จะให้โทษได้เหมือนกันหมด
แต่ในกรณีที่คุณต้องการกินถั่วเหลืองเพื่อช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก แนะนำให้เลือกกินถั่วเหลืองแบบต้มมากกว่าแบบอื่นๆนะคะ เพราะกรรมวิธีในการปรุงอาจจะทำให้แคลอรี่ที่เราจะได้รับเพิ่มขึ้น เช่น

  1. ถั่วเหลืองต้มสุก แบบไม่ใส่เกลือ 100 กรัม ให้พลังงาน 173 กิโลแคลอรี
  2. ถั่วเหลืองดิบ 100 กรัม ให้พลังงาน 417 กิโลแคลอรี
  3. ถั่วเหลืองคั่วสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 451 กิโลแคลอรี

การจะรับประทานถั่วเหลืองที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำให้ทานไม่เกินวันละ 1 ถ้วยและควรทานผัก ผลไม้ตามเข้าไปด้วยเยอะๆ ที่สำคัญไม่ควรกินถั่วเหลืองติดต่อกันนานๆควรกินสลับกับถั่วชนิดอื่นหรืออาหารอื่นๆสลับกันไปค่ะ

ข้อควรระวังในการกินถั่วเหลือง

ถึงถั่วเหลืองจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากมาย แต่ก็ใช่ว่าเราจะเลือกทานแต่ถั่วเหลืองอย่างเดียวหรือทานในปริมาณที่มากๆได้ เพราะอาหารไม่ว่าจะมีประโยชน์ขนาดไหน หากเราทานมากเกินไปก็จะส่งผลเสียด้วยกันทั้งนั้น การทานถั่วเหลืองจึงต้องควรระมัดระวังได้แก่

  1. ผู้ที่แพ้ถั่วควรเลี่ยงการรับประทาน
  2. เด็กหรือคนที่เป็นโรคหอบหืด ควรระวังการกินถั่วเหลือง เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือแน่นท้องได้
  3. ผู้ชายควรกินถั่วในแค่พอดี เพราะในถั่วเหลืองมีปริมาณของสารไฟโตเอสโตรเจน อาจจะทำให้เกิดหน้าอกใหญ่ขึ้นหรือจำนวนอสุจิลดลง
  4. การกินถั่วเหลืองเป็นประจำอาจทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ทำให้อ่อนเพลียหรืออ้วนขึ้นได้

ถั่วเหลืองช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดความอยากอาหารลงได้แต่ควรกินแค่พอเหมาะ

ถั่วเหลืองถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์มากมายและช่วยคลายหิว ทำให้อิ่มนานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่ถั่วเหลืองก็มีแป้งและไขมันสูง หากกินมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเราได้ และควรกินถั่วเหลืองสลับกับกินอาหารชนิดอื่นๆด้วยเพื่อให้ได้รับสารอาหารเพียงพอและมีสุขภาพดี

1

2

Related posts

  1. นมถั่วเหลือง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    นมถั่วเหลือง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  2. น้ำผึ้ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    น้ำผึ้ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  3. ข้าวมันไก่ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  4. วุ้นเส้น กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  5. สลัดผัก กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  6. ข้าวบาเลย์ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ข้าวบาเลย์ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  7. กระเทียม กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  8. ข้าวเหนียวหมูปิ้งกี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  9. ฝรั่ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด