ทุเรียน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

ทุเรียนใครๆก็ว่าเป็นราชาของผลไม้ เพราะมีรสชาติและกลิ่นที่เฉพาะตัว หลายคนชอบทุเรียนแต่บางคนก็ไม่ชอบ แถมก่อนหน้านี้ยังเคยได้ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียนมาหลายอย่าง เช่น บ้างก็บอกว่ากินทุเรียนแล้วจะอ้วนขึ้นง่ายๆ คนกลัวอ้วนห้ามกินทุเรียนอย่างเด็ดขาด แต่บางคนก็บอกว่าทุเรียนก็สามารถกินเพื่อลดความอ้วนได้แค่กินให้ถูกตามเวลา ซึ่งข้อมูลตรงนี้ทำให้เกิดความงุนงงสงสัยว่าข้อมูลไหนกันแน่ที่เป็นความจริง เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเด็ดของทุเรียนทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพและการลดความอ้วน มาฝากกันค่ะ

ประโยชน์ จาก ทุเรียน

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีรสหวานทำให้หลายคนกลัวว่ากินแล้วจะอ้วนหรือมีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงซึ่งคนที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ควรรับประทานด้วยความระมัดระวัง แต่นอกจากนี้ในทุเรียนก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายเราหลายอย่างที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน โดยประโยชน์ของทุเรียนนั้นได้แก่

  1. ช่วยป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงบางชนิด เช่นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง หากทานในปริมาณที่เหมาะสม
  2. ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แถมถึงทุเรียนจะมีไขมันเยอะตี่ก็เป็นไขมันดี ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย
  3. ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีและง่ายยิ่งขึ้น
  4. ช่วยชะลอความแก่และชะลอการเกิดผมหงอก
  5. ช่วยเร่งการเผาผลาญ เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก แต่ควรระวังเพราะไม่ควรทานเกิน 1-2 พูเท่านั้น
  6. ทุเรียนพันธ์หมอนทองจะมีสารโพลีฟีนอลและเส้นใยที่ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลได้ แต่ต้องไม่ควรทานเกิน 1 พูต่อวันเท่านั้น

ทุเรียน กี่แคล

ทุเรียนเป็นราชาของผลไม้ของไทย ที่มีรสหวาน เนื้อนุ่มละมุนลิ้น มีกลิ่นเฉพาะตัว และด้วยความที่เป็นผลไม้รสหวานและมีทั้งแป้งและไขมันเยอะจึงทำให้มีพลังงานเยอะตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่ง ทุเรียน 100 กรัม จะให้พลังงาน 133 กิโลแคลอรี มีคาร์โบไฮเดรต 27.1 กรัม ไขมัน 3.3 กรัม โปรตีน 2.3 กรัม

วิธีรับประทานทุเรียน ให้มีผล ในการลดน้ำหนัก

ก่อนหน้านี้ในโซเชียลมีเดียต่างๆมีการแชร์ข้อมูลเรื่องการกินทุเรียนลดน้ำหนัก หลายคนอาจจะกังวลเรื่องนี้ว่าทุเรียนที่เราเห็นว่ามันอาจจะทำให้อ้วนนั้น สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าเราพิจารณาจากพลังงานของทุเรียนแล้วคาดว่าคงไม่มีใครที่อยากจะใช้ทุเรียนในการลดน้ำหนักแน่นอนเพราะเราทุกคนต่างรู้ดีว่า การที่น้ำหนักจะลดลงได้ นั่นคือเราต้องได้รับพลังงานให้น้อยกว่าที่เราใช้ไปในแต่ละวัน ดังนั้นการกินทุเรียนเพื่อผลของการลดน้ำหนักโดยตรงน่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่หากอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักแล้วอยากกินทุเรียน แนะนำให้กินทุเรียนหมอนทองได้ไม่เกิน 1 พู แล้วดื่มน้ำตามมากๆ เอาแค่หายอยากดีกว่า แต่อย่าใช้กินเพื่อลดน้ำหนักเลย หากต้องการผลของการลดน้ำหนักจริงๆแนะนำทานผลไม้อื่นๆอย่างแอปเปิ้ล,กีวีหรือผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำจะดีกว่า

ข้อควรระวังในการกินทุเรียน

ถึงแม้ว่าเราจะรู้ถึงประโยชน์หลายอย่างของทุเรียน แต่เนื่องจากที่ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง การกินทุเรียนจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่เช่นนั้นหากเราทานเกินความพอดีอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ซึ่งการจะกินทุเรียนควรระวัง ดังนี้

  1. เพื่อสุขภาพแนะนำให้ทานทุเรียนแค่ 1 พูต่อวันก็พอ แต่ไม่ใช่ว่าทาน 1 พูจะเลือกพูที่ใหญ่ที่สุดนะคะ ควรเลือกที่ไม่เกิน 100 กรัมเท่านั้น และมื้อที่ทานทุเรียน ควรงดขนม ของหวานที่มีน้ำตาล ข้าว ขนมปัง หรือผลไม้หวานๆลงด้วยเพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินไป
  2. หากจะทานทุเรียนควรเลือกทุเรียนอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ควรเลือก ข้าวเหนียวทุเรียน หรือทุเรียนน้ำกะทิเพราะสองอย่างหลังนอกจากจะทำให้อ้วนได้ง่ายแล้วยังอาจทำให้ร้อนในอีกด้วย
  3. หลีกเลี่ยงการทานทุเรียนร่วมกันแอลกอฮอล์ เหล้า หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลังทุกชนิด เพราะอาจจะทำให้ร่างกายร้อนจัดจนเกิดอาการขาดน้ำและช็อกได้
  4. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง แต่หากอยากินจริงๆควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

ทุเรียนมีรสหวานอร่อยแต่น้ำตาลและไขมันสูงควรทานให้พอดี

ถึงทุเรียนจะมีเส้นใยสูงที่ช่วยในการขับถ่ายแต่ก็ประกอบไปด้วยน้ำตาล แป้ง และไขมันเยอะ การจะทานควรทานให้พอดี คือ ไม่เกิน 1-2 พู เพราะหากทานเยอะร่างกายก็จะได้พลังงานเยอะเกินและเกิดโรคอ้วนได้ แถมการกินทุเรียนมากเกินไปอาจจะทำให้ร่างกายภายในเกิดความร้อนสูง เสี่ยงต่อการเกิดร้อนใน และที่สำคัญไม่ควรกินทุเรียนกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะไม่งั้นอาจช็อกตายได้ค่ะ

1

2

Related posts

  1. ฝรั่ง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  2. แก้วมังกร กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  3. แบล็กเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    แบล็กเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  4. สตรอว์เบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    สตรอว์เบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  5. มะม่วง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  6. อะโวคาโด กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  7. แตงโม

    แตงโม กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  8. มัลเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    มัลเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  9. กล้วยน้ำว้า กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด