ชินนาม่อน กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

ชินนาม่อนหรือ อบเชย เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่เราใช้ผสมในอาหาร เบเกอรี่ หรือใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภันฑ์เสริมความงามต่างๆ อีกทั้ง ชินนาม่อนยังมีสรรพคุณทางยาสูง จึงถูกใช้เป็นส่วนประกอบของยาหลายชนิด และนอกเหนือจากนี้เรายังสามารถใช้ชินนาม่อนเพื่อการลดน้ำหนักได้อีกด้วย สรรพคุณรอบด้านขนาดนี้เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่า ว่าหากเราต้องการจะใช้ชินนาม่อนให้เกิดประโยชน์แบบสูงสุด เราควรใช้ยังไง และชินนาม่อน มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเราบ้าง

ประโยชน์ จากชินนาม่อน

ชินนาม่อน มีสรรพคุณทางยาและมักจะถูกใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร ขนมหรือเครื่องสำอางต่างๆ เรามาดูกันดีกว่าว่า ชินนาม่อนนั้นมีประโยชน์อะไรที่สำคัญต่อร่างกายของเราบ้าง

  1. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยต้านไวรัส
  2. ลดการอักเสบ แก้ปวดข้อ ปวดหัว
  3. บรรเทาอาการปวดประจำเดือนในผู้หญิง
  4. ช่วยบำรุงสมอง ทำให้สมองแข็งแรง และลดความเครียด
  5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และนอกจากนี้ยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลง หากเราเผลรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงเข้าไป
  6. ช่วยลดกลิ่นปาก ทำให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี
  7. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย
  8. บำรุงผิว ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

ชินนาม่อน กี่แคล

ชินนาม่อน หรืออบเชย เป็นเครื่องเทศที่เรามักจะได้กินอยู่บ่อยๆจากอาหาร ขนมหรือยาบางชนิด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราอาจยังไม่รู้นั่นคือ ชินนาม่อน สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ โดยการใส่ลงในอาหารหรือเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อที่จะช่วยเร่งการเผาผลาญและช่วยลดน้ำตาลในเลือด ทำให้ลดการแปลงน้ำตาลส่วนเกินให้เป็นไขมัน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นตัวช่วยทางอ้อมที่จะช่วยลดน้ำหนักนั่นเอง ซึ่งชินนาม่อน 100 กรัม จะให้พลังงานที่ 364 กิโลแคลลอรี่ ซึ่งอาจจะดูมาก แต่วันๆหนึ่งเราทานชินนาม่อนเพียงแค่ไม่กี่กรัมเท่านั้น จึงถือว่าเราได้รับพลังงานจากชินนาม่อนน้อยมากแต่ได้ประโยชน์จากชนินาม่อนอย่างเต็มที่

วิธีรับประทานชินนาม่อน ให้มีผล ในการลดน้ำหนัก

อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าชินนาม่อนมีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือด เมื่อน้ำตาลในเลือดไม่เยอะร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมันได้น้อยลง คล้ายๆกับเราทานอาหารลดลงจึงทำให้เราผอมลงหรือน้ำหนักลดลงได้ โดยแนะนำใช้ผงชินนาม่อน ¼ ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่นดื่มทุกๆเช้า แค่นี้ก็จะช่วยให้คุณสดชื่น กระปรี้กระเปร่าทั้งวัน แถมยังช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักลงได้

ข้อควรระวังในการกินชินนาม่อน

ถึงแม้ว่าชินนาม่อนจะมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างมาก แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนที่ต้องการใช้ชินนาม่อนด้วยได้แก่

  1. ชินนาม่อน เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งอาจทำให้บางคนทานเข้าไปแล้วเกิดอาเจียนได้
  2. คนที่เป็นไข้ ปัสสาวะขัด อุจจาระแข็ง หรือเป็นโรคริดสีดวงทวาร เด็กต่ำกว่า 2 ขวบและสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด
  3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับและโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชินนาม่อน

แค่ใส่ชินนาม่อน ¼ ช้อนชาลงในเครื่องดื่มทุกเช้าก็จะช่วยลดน้ำหนักได้

ชินนาม่อนถือเป็นเครื่องเทศหรือสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลาย มีรสหวานและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ถึงแม้ว่า ชินนาม่อนจะให้พลังงานสูงแต่ก็ให้ประโยชน์สูงเช่นกัน และหากเรารับประทานอย่างพอเหมาะก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักลงได้อย่างง่ายดายที่สุด

1

2

Related posts

  1. มะม่วงหิมพานต์กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    มะม่วงหิมพานต์กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  2. มัลเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    มัลเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  3. ข้าวจ้าว กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ข้าวจ้าว กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  4. นมอัลมอนด์ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  5. ข้าวกล้อง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  6. ถั่วเหลือง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ถั่วเหลือง กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  7. ข้าวโอ๊ตกี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    ข้าวโอ๊ตกี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  8. ข้าวบาสมาติ กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

  9. แบล็กเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด

    แบล็กเบอร์รี กี่แคล กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด